โรคมะเร็งปากมดลูก
โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่เกิดที่ปากมดลูก
เป็นมะเร็งที่พบบ่อย บทความนี้เกี่ยวกับโรค ปัจจัยเสี่ยง การป้องกัน การวินิจฉัยรวมทั้งการรักษา
มะเร็งคืออะไร
ร่างกายประกอบด้วยเซลล์เป็นจำนวนมาก
ปกติเซลล์จะแบ่งตัวตามความต้องการของร่างกาย เช่น มีการผลิตเม็ดเลือดแดงเพิ่มเมื่อมีการเสียเลือด
มีการผลิตเม็ดเลือดข้าวเพิ่มเมื่อมีการติดเชื้อ เป็นต้น แต่มีเซลล์ที่แบ่งตัวโดยที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ทำให้เกิดเป็นเนื้องอก
ซึ่งแบ่งเป็น Benign และ Malignant
- Benign tumor คือเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็งสามารถตัดออกและไม่กลับเป็นใหม่
และที่สำคัญไม่สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น polyps,cyst,wart
- Malignant tumor เซลล์จะแบ่งตัวทำลายเนื้อเยื่อและอวัยวะใกล้เคียง
ที่สำคัญสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นที่อยู่ไกลโดยไปตามกระแสเลือด และน้ำเหลืองเรียกว่า
Metastasis
โครงสร้างของปากมดลูก
|
โครงสร้างระบบอวัยวะสืบพันธ์ของคุณสุภาพสตร
ีประกอบไปด้วยรังไข่
[ovary] ซึ่งต่อกับมดลูกโดยท่อรังไข่ [fallopian tube] มดลูก[uterus]อยู่ระหว่างทวารหนัก [rectum]
และกระเพาะปัสสาวะ [bladder] มดลูกติดต่อกับช่องคลอด
[vagina] โดยมีปากมดลูก [cervix] เป็นทางติต่อระหว่างมดลูกและช่องคลอด
|
มะเร็งในระยะเริ่มแรก
เซลล์ที่ประกอบเป็นปากมดลูกจะประกอบไปด้วยเซลล์
squamous cells
and glandular มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ทั้งสองชนิด
การเปลี่ยนแปลงของเซล์จะค่อยเปลี่ยนจนเกิดเป็นลักษณะที่เรียกว่า Precancerous
ซึ่งมีด้วยกัน คือ cervical intraepithelial neoplasia
(CIN), squamous intraepithelial lesion (SIL), and dysplasia.
- Low-grade SIL หมายถึงการเปลี่ยนแปลงเริ่มแรกของ
รูปร่าง ขนาด และจำนวน บางครั้งอาจหายไปเองแต่ก็มีจำนวนหนึ่งเปลี่ยนไปเป็น
High-grade SIL บางครั้งเรียก mild dysplasia
- High-grade SILหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุมดลูกที่เปลี่ยนไปจากเดิมชัดเจน
ถ้าเซลล์อยู่เฉพาะปาดมดลูกเรียก moderate or severe dysplasia
มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เป็นชนิด
Squamous cell ประมาณร้อยละ 80%ถึง 90% ส่วนที่เหลือประมาณร้อยละ
20 จะเป็นชนิด Adenocarcinomas
การเปลี่ยนแปลงจาก
Precancerous เป็นมะเร็งใช้เวลาเป็นปี การรักษาตั้งแต่ยังไม่เป็นมะเร็งจะป้องกันมิให้เกิดมะเร็ง
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
การตรวจมะเร็งแรกเริ่ม
เป้าหมายของการค้นหามะเร็งเริ่มแรกคือการค้นหาการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
ก่อนที่จะเกิดอาการของโรค
การวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูกแรกเริ่มโดยมากมาจากการตรวจปากมดลูกประจำปี ในการตรวจภายในแพทย์
จะตรวจ มดลูก ช่องคลอด ท่อรังไข่ รังไข่ หลังจากนั้นแพทย์จะใช้อุปกรณืถ่างช่องคลอดเพื่อทำ
pap smear ช่วงที่เหมาะสมในการตรวจภายในคือ10-20
วันหลังประจำเดือนวันแรก และก่อนการตรวจ 2 วันไม่ควรสวนล้าง
ยาฆ่า sperm หรือยาสอด ปัจจุบันการรายผลจะใช้ Low หรื High grade SIL มากกว่า class1-5 แต่อย่างไรก็ตามควรให้แพทย์อธิบายผลให้ฟังอย่างละเอียด ผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ตั้งแต่อายุ
18 ปีขึ้นไปควรตรวจภายในประจำปี
อาการของมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกจะไม่มีอาการอะไร
แต่เมื่อเป็นมะเร็งแล้วจะมีอาการเลือดออกหลังจากการตรวจภายใน หรือหลังร่วมเพศ
หรือมีตกขาว
- มีเลือดออกผิดปกติ
เช่นเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธุ์ มีเลือดออกหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว
เลือดออกเป็นระยระยะ ประจำเดือนมานานผิดปกติ เลือดออกหลังจากตรวจภายใน
- มีอาการตกขาวซึ่งอาจจะมีเลือดปน
- มีอาการเจ็บขณะร่วมเพศ
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
ปัจจัยเสี่ยงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงใดใดที่เกิดขึ้นแล้วทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น
มะเร็งแต่ละชนิดจะมีปัจจัยเสี่ยงต่างกัน ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลุกได้แก่
- การติดเชื้อ
HPV หรือการเป็นหูดที่อวัยวะเพศ
เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของการเกิดมะเร็งปากมดลุก
- การสูบบุหรี่
ของการเกิดมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึนสองเท่า
- การรับประทานยาคุมกำเนิด
- ระบบภูมิคุ้มกันของคุณสุภาพสตรี
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดีจะทำให้เกิดโอกาสติดเชื้อ HPV ได้ง่ายจึงมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลุกเพิ่มขึ้น
- การติดเชื้อ Chlamydia พบว่าผู้ที่ติดเชื้อ Chlamydia
ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์จะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงขึ้น
- อาหาร
ผู้หญิงที่รับประทานผักและผลไม้น้อยจะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูงกว่าคนที่รับประทานผักและผลไม้
- ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดมาเป็นระยะเวลานานจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูก
- การมีบุตรหลายคนเชื่อว่าจะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น
เชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางฮอรฺโมนทำให้ติดเชื้อ HPV ง่าย
และขาดการป้องกันการติดเชื้อ
- ผู้ที่มีเศรษฐานะต่ำเนื่องจากเข้าถึงบริการไม่ทั่วถึง
- ผู้ที่ได้ยา
Diethylstilbestrol
(DES) เพื่อป้องกันแท้ง
การวินิจฉัย
จากการทำ
pap test ทำให้ทราบว่ามีเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูกแพทย์จะทำการตรวจ Colposcopy
โดยการส่องกล้องแล้วเอา iodine ป้ายบริเวณปากมดลูก
เซลล์ปกติจะเป็นสีน้ำตาล ส่วนเซลล์ผิดปกติจะเป็นสีขาวหลังจากนั้นแพทย์จะเอาชิ้นเนื้อปากมดลูกไปตรวจซึ่งมีวิธีตรวจต่างๆตามแต่แพทย์จะเห็นสมควร
มะเร็งเต้านม
โรคมะเร็งเต้านมเกิดจากเนื้อเยื่อของเต้านมมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งซ
ึ่งอาจจะกิดเป็นมะเร็งเต้านมที่เกิดกับท่อน้ำนม หรือมะเร็งเต้านมที่เกิดกับต่อมน้ำนม
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อย
ดังนั้นท่านผู้อ่านที่เป็นหญิงหรือชายควรจะตรวจเต้านมตัวเอง
มะเร็งคืออะไร
ร่างกายของคนเรา
ประกอบไปด้วยเซลล์จำนวนมาก โดยมีการแบ่งตัว ตามความต้องการของร่างกาย
เช่นเซลล์เม็ดเลือดแดงจะมีการผลิตเพิ่มเมื่อร่างกายเราเสียเลือด
ผลิตเม็ดเลือดขาวเพิ่มเมื่อร่างกายเราติดเชื้อ
แต่เซลล์ที่สร้างโดยที่ร่างกายเราไม่สามารถควบคุมได ้เราเรียกว่าเนื้องอก Tumor ซึ่งแบ่งเป็น Benign และ Malignant
Benign
tumor
คือเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง
เนื้องอกจะไม่แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย ตัดออกแล้วจะไม่เป็นซ้ำ เช่น fibroadenoma,cyst,fibrocystic disease
Malignant
tumor
|
เซลล์จะแบ่งตัวไม่หยุด
ร่างกายเราไม่สามารถควบคุมการแบ่งตัว
เซลล์จะแพร่กระจายไปยังอวัยวะใกล้เคียงและแพร่ไปยังอวัยวะอื่นๆ
โดยอาจจะไปตามกระแสเลือด หรือทางน้ำเหลือง เราเรียกการแพร่กระจายว่า Metastasis
อาการของมะเร็งเต้านม
ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมมักจะไม่มีอาการอะไร
โดยมากมักจะรู้ได้โดย
- คลำได้ก้อนที่เต้านมหรือรักแร้
- มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของเต้านม
- มีน้ำไหลออกจากหัวนม
- เจ็บ
หรือหัวนมถูกดึงรั้ง
- ผิวเต้านมจะเหมือนเปลือกส้ม
มาป้องกันมะเร็งกันเถอะ
สาเหตุของมะเร็งเต้านมยังไม่เป็นที่แน่ชัด
แต่การปฎิบัติตัวที่ดีจะลดการเกิดมะเร็งเต้านม
- เปลี่ยนแปลงอาหาร
เช่นลดพวกเนื้อสัตว์ลง ลดอาหารไขมัน
- เลือกรับประทานอาหารผักหรือผลไม้
- ควบคุมน้ำหนักมิให้อ้วน
- ออกกำลังกายสัปดาห์ละ
5 วันวันละ 30 นาที
- งดบุหรี่
และแอลกอฮอลล์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น